วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2558

ผมตามหา Passive Income มาตลอดชีวิต!


คุณมาจิดี โอบาเอด (Majdi Obaid, PHD.) อายุ 42 ปี ชาวบาห์เรน เป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจที่
มีค่าตัวแพงที่สุดคนหนึ่งในตะวัน
ออกกลาง

เคยทำงานเป็น Financial Controller ที่อายุน้อยที่สุดของรัฐ เคยเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย  ช่วงกว่า 11 ปีที่ผ่านมา เขามองหา #Passive income มาตลอด เขาเข้าเรียนคอร์สต่างๆ มามากมาย ใช้เงินนับร้อยล้านบาทเพื่อสร้างรายได้แบบ #
Passive income ไม่ว่าในอสังหาริมทรัพย์ หุ้น ลิขสิทธิ์ ธุรกิจแฟรนไชส์ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่เขาก็ยังไม่พบหนทางนำไปสู่ #Passive income  อย่างแท้จริง

คุณมาจิดี เล่าว่า 10 ปี ผมเป็นลูกจ้าง, ทำงานราชการ, จบบัญชี, จบ PHD. ด้าน Leadership, ทำงานราชการได้เงินมามาก ใช้เวลาอีก 10 ปีต่อมา มาเป็นเจ้าของกิจการ มาเป็น Personal development trainer พาตัวเองไปเรียนกับคนเก่งๆ มากมายระดับโลก ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น Tony Robbins, Les Brown, Brian Tracy, T Harv Eker, Jack Canfield, Bop Proctor, Stephen Covey, Tom Peters, Paul Zane Pilzer, etc. เรียกว่า ใครดังสุดๆ ไปเรียนมาหมด ทั้งวิชาด้านบริหาร การจัดการ ภาวะผู้นำ การบริหารการเงิน ความมั่งคั่ง 


รายได้ของผม พูด 1 วัน ได้ 5,000 US$ (150,000 บาท) หรือ 
30,000-50,000 US$ (1 ล้าน บาท) ต่อเดือน ผมรู้จัก Passive Income ผมศึกษาทุกอย่าง ผมสอนเรื่อง Passive Income อีกด้วย ในปี 2005 ผมเขียนแผนอิสรภาพทางการเงิน ผมทำตาม Tony Robbins บอกที่ว่าให้เขียนทุกอย่างที่มี ถ้าแผนนี้สำเร็จ ผจะมีอิสรภาพทางการเงินใน 8 ปี

ในปี 2012 ผมไปเรียนคอร์สเดิมกับ Tony Robbins อีกครั้งเรื่องการวางแผนการเงิน แต่ผมก็ยังไม่มี Passive income ซะที มีคนบอกว่า ต้องทำแฟรนไชส์ ผมก็ไปทำ

มีคนบอกว่า ต้องเขียนหนังสือขาย ผมก็เขียน หนังสือของผมเป็น Bestsellers ด้วยนะ ผมเสียค่าพิมพ์ไป จนป่านนี้ ผมยังไม่ได้ค่าพิมพ์คืนเลย

เมื่อสามปีที่แล้ว มีคนบอกให้ผมทำ Internet Marketing ผมทำไป 9 websites ผลลัพธ์ คือ 0

ผมไปต่ออีก มีคนบอกว่า ไปตลาดหุ้น ลงกองทุนใน mutual fund- กองทุนรวม ผมหวังจะได้ เงินล้าน ปี 2008 ตลาดหุ้นดันร่วง ก็ไม่เวิร์คอีก

ผมรู้สึกท้อแท้สิ้นหวัง Passive income นี่เป็น เป็น wishful thinking จริงๆ (เรื่องลมๆ แล้งๆ) ผมเลิกตามหาแล้ว แล้วและกลับไปทำ Active income เหมือนเดิม

ยิ่งทำงาน ยิ่งเหนื่อย ยิ่งหมดแรงเมื่อรายได้มากขึ้น รายจ่ายก็มากขึ้น คนชั้นกลางยากที่จะรวยได้ เพราะรายจ่ายขึ้นเร็ว พอได้เงินมากขึ้น ผมก็เครียดมากขึ้น ผมบริหารความเครียดไม่ได้ ผมมีลูก 4 คน ผมเจอพวกเขาน้อยมาก ผมเดินทางบ่อย ลูกคนเล็กฝาแฝด ไม่รู้จักผม ตอนข้อเท้าผมแตก เดินไม่ได้ ผมไม่มี Active income เข้ามาเลย

Wake-up Call: จุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่
เจ้านายเก่าโทรมา บอกผมว่า มีโปรเจกต์สุขภาพ และมีเงิน เขารู้ว่าผม ผมชอบกินอาหารเสริม แต่พอรู้ว่าเป็น Network Marketing ผมคิดว่า ต้องเสียเวลาแน่ๆ เจ้านายเก่าผม แนะนำให้เจอคุณพอล ภัทรพล ผมไม่รู้จักหรอก ใครคือ Paul? Who is Paul?

ผมรู้มาว่า สิ่งดีๆ ต้องมาจากอเมริกา แต่นี่ เขาบอกว่า เป็นสิ่งดีๆ จาก Thailand.... OMG Thailand! เนี่ยนะ!  พอเค้าเริ่มพูดเรื่อง #เงินสี่ด้าน เขาบอกว่า ได้สามหมื่นเหรียญนะ ก็ผมทำได้ แสนเหรียญ!  แต่เขาบอกว่า มันเป็น  Passive income นะ ผมหันไปถามเจ้านายว่า คุณเชื่อหมอนี่เหรอ? ผมน่ะ สอนเรื่อง Passive income มาก่อนนะ!

ผมคิดไปเองว่า มันต้องไปวิ่งขายของแน่ แต่ผมมาตระหนักทีหลังว่า คนที่ผมไปเรียนมาทั้งหมด พูดถึง Network Marketing แต่ส่วนใหญ่ ก็บอกเป็นแค่ side income หรือรายได้เล็กๆ น้อยๆ เป็นงานเสริม เพื่อนผมอยู่ในธุรกิจแนวนี้มีเยอะแยะ และยังต้องวิ่งขายของอยู่เลยทุกวันนี้

อดีตเจ้านายบอกว่า ถ้าไม่เชื่อ เขาจะพาไปดูคนที่ทำได้ สำเร็จ และได้เลขศูนย์เยอะๆ ผมชอบตัวเลขที่มีเลขศูนย์เยอะๆ และไปเกษียณ  ผมมางาน UPS Seminar เมื่อสามปีที่แล้ว (2012) สิ่งที่ผมได้เห็น ทำให้ผมรู้สึก เหมือนเกิดใหม่


ผมเห็นคนสองหมื่นคน ผมนึกว่า เป็นการจัดปีล่ะหน ยิ่งใหญ่มาก แต่เจ้านายผมบอกว่า นี่เขาจัดเดือนล่ะครั้ง OMG!!!

แล้วเจ้านายเก่าผมก็บอกว่า คนเหล่านี้ ซื้อบัตรเข้างานมาเองนะ OMG!!! แล้วผมก็เห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ชื่อคุณชัยรัช (คุณหม่าม) เขาบอกว่า เขาไม่มีประสบการณ์ แต่เขาขับลัมโบกินี เขาบอกว่า เขาอายุ 28 และบอกว่า ซื้อ BMW ให้ภรรยาเป็นของขวัญ และมีอิสรภาพทางการเงินด้วย ไม่เคยเรียนเรื่องนี้ ไม่มีไปเรียนที่ไหน ไม่เคยไปพูดที่ไหนมาก่อน ส่วนผม ผมแต่งงานมา 20 ปี ผมซื้อดอกไม้ให้ภรรยาเอง และเขาบอกว่า ไม่ใช่มีแค่เขาคนเดียวที่มีผลลั
พธ์แบบนี้ แต่มีเป็นร้อยๆ คน ที่อยู่ในโปรเจกต์นี้ OMG!!!!



ผมมาดูตัวเอง ระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา ผมเสียเงินไปมากมาย ผมจ่าย ห้าล้านเหรียญลงทุนไปกับ franchise และธุรกิจต่างๆ มากมายที่จะสร้างรายได้ให้โดยไม่ต้องทำงาน 

ผมเจอเด็กหนุ่มสาวที่นี่ อายุ 18, 19 ปี เริ่มมี มี financial freedom มันเหมือนของเล่นเลย ทำไม financial freedom มันได้มาเหมือนของเล่นเลยที่นี่ OMG!!! ผมว่ามันไม่น่าเป็นไปได้เลย ไม่มีตรรกะและเหตุผลใดๆ มีที่ไหนมาเรียนกับ Unipower เรียนๆๆ 6 เดือน แล้วขับเบนซ์ได้ มันไม่ make sense สำหรับผม



ผมมาเรียนกับ Unipower

ผมคิดว่า ผมรวย ผมมีความรู้ แต่ผมก็มาเรียนกับผมมาเรียนกับ Unipower ผมกลับไปสร้างธุรกิจของผม ผมใช้เวลา 5 เดือน ผมเป็น PD Fully (รายได้ขั้นต่ำ 300,000 บาท/เดือน) ภายใน 7 เดือน เป็น PS (500,000/เดือน) ผมมีคนตามมามากมายในหลายประเทศ ตอนนี้ ทีมได้ ขยาย เติบโตไปทั่วทวีป ร่วมถึง Bahrain, Oman, Kuwait, Jordan, Algeria, Morocco, Egypt, etc.

ผมเลิกทำ Active Income แล้ว และผมซื้อ BMW ให้ภรรยาผม Unipower คือ เครื่องมือสร้างเงินดีๆ นี่เองที่สุดยอดมากๆ (Ultimate money-making machine.) และเป็นโรงเรียนสอนธุรกิจที่สุ
ดยอดมากๆ (Ultimate business school) Unipower จะช่วยให้คนมีรายได้ ช่วยคนยากคนจนได้ ที่นี่ คือ การรักษาความยากจน สำหรับผมแล้ว การแก้เค้นที่ดีที่สุดคือ การมีความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่! (The greatest revenge is massive success.) 



ผมจะพาคนของผม See ที่งานนี้ ทุกๆ เดือน

-end-

#financial freedom, #active income, #passive income, #Unipower, #Happy Life Project, #Majdi Obaid, #Unicity, #nutraceuticals, #wealth, #Network, #Network Marketing,


Copy & Paste ส่งต่อ: 
http://bioslifeleaders.blogspot.com/2015/09/passive-income.html