วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2558

6 ข้อที่ควรรู้ ถ้าเลือกทำแฟรนไชส์




ในการตัดสินใจจะเป็นเจ้าของธุรกิจ หลายๆ คนมองหาแฟรนไชส์ซึ่งแฟรนไชส์มีให้เลือกเป็นพัน จะยกตัวอย่างเปรียบเทียบให้เห็นความต่างระหว่างแฟรนไชส์ทั่วไป เช่น ทำร้านสะดวกซื้อกับแฟรนไชส์ #Happy Life Project

แฟรนไชส์สะดวกซื้อทั่วไป

1. เงินลงทุนหลักล้าน
    (คุณต้องมีเงินอย่างต่ำ 3 ล้านบาท)

2. สัญญามีหมดอายุ

    (ทำตัวให้ดี เค้ามีคะแนน ทำตัวไม่ดี ไม่ต่ออายุให้)

3. โดนโซนนิ่ง - จำกัดพื้นที่
    (อยู่ในซอย ไปไหนไม่ได้ อยู่ตรงไหน ก็ตรงนั้น ย้าย
    หนีไม่ได้)


4. ต้องจ้างพนักงาน/ ลูกจ้าง
    (ค่าจ้างพนักงาน/ ลูกจ้าง เป็น fixed cost หลีกเลี่ยง
    ไม่ได้ สมัยนี้ คนเข้า คนออกเยอะ)


5. รายได้มีเพดาน ยิ่งขยาย ยิ่งยุ่ง
    (ถ้ารายได้เกินที่กำหนด เค้าก็จะบอกให้เปิดสาขา
    ใหม่ ถ้าไม่เอา ก็จะมีคนอื่นมาเปิดแทน)

6. รับความเสี่ยงเองทุกเรื่อง
    (น้ำท่วม, สินค้าเสียหาย/ ของหาย รับผิดชอบเอง
    ต้องคอยดูทีวีวงจรปิด)

แฟรนไชส์ Happy Life Project
1. เงินลงทุน 500 บาท + วิสัยทัศน์
    (ลงทะเบียน สนใจทำแฟรนไชส์ 500 บาท เท่ากับ
    ทำได้เลย เงินลงทุนก้อนแรก ไม่ต้องมี มีวิธีเริ่มต้น
    ที่ถูกต้องให้)


2. ตลอดชีพ ไม่ต้องต่อสัญญา

    (เซ็นแล้ว ไม่ต้องต่ออายุ)

3. ไม่โดนโซนนิ่ง ไม่จำกัดพื้นที่

    (ไม่ต้องอยู่กับที่ ทำข้ามจังหวัด ข้ามประเทศได้)

4. ไม่ต้องจ้างพนักงาน/ ลูกจ้าง

    (fixed cost เป็นเรื่องปวดหัว ไม่มี)

5. รายได้ไม่จำกัด ยิ่งขยาย ยิ่งเบา
    (อยากขยายสาขามากๆ ไม่ต้องไปลงทุนอะไรใหม่)


6. ไม่กลัวน้ำท่วม
    (ไม่ต้องกลัวทรัพย์สินจะหายไปกับน้ำ เพราะเป็น
    แฟรนไชส์ที่ไร้ความเสี่ยง เติบโต ขยายได้ ไม่มี
    ขีดจำกัด ไม่โดนผลกระทบด้านการเมือง/
    ไม่กลัวภัยธรรมชาติ/ ภัยพิบัติ)


ข้อเสียของแฟรนไชส์ Happy Life Project

    "ต้องลงมือทำ"

ภาพ: เหตุการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดชลบุรี ในเดือนกันยายน 2015

#Unicity #Unipower #Passive Income #Financial Freedom #Leader
#Leadership #Network Marketing #Network

-end-

Link หน้านี้ copy & paste:

http://bioslifeleaders.blogspot.com/2015/09/6.html